วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

There is / There are

 
There is / There are 
        There is / there are มีความหมายว่า "มี" ใช้เมื่อต้องการจะบอกว่า "มีอะไรอยู่ที่ไหน" เช่น
1. There is ใช้นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ หรือคำนามนับไม่ได้ เช่น
ประโยคบอกเล่า
- There is an accident. / There is some milk in the glass.

2. There are ใช้นำหน้าคำนามพหูพจน์ เช่น
ประโยคบอกเล่า
- There are three accidents. / There are many cars in the street.


เพื่อนสามารถชมวีดีโอนี้เพื่อเพิ่มเติมความเข้าใจได้ค่ะ
 - http://youtu.be/_b97TLcqeRM

วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2557

Adverbs of Frequency

"Adverbs of Frequency" 




           คือ กริยาวิเศษณ์แสดงความถี่ โดยเราจะนำ Adverbs of Frequency มาช่วยในการบ่งบอกถึงความบ่อยหรือความถี่ (how often) ของเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งคำเหล่านี้นั้นมีอยู่มากมาย โดยที่มักเห็นได้ทั่วไป นั่นก็คือAdverbs of Frequency คือ กริยาวิเศษณ์แสดงความถี่ โดยเราจะนำ Adverbs of Frequency มาช่วยในการบ่งบอกถึงความบ่อยหรือความถี่ (how often) ของเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งคำเหล่านี้นั้นมีอยู่มากมาย โดยที่มักเห็นได้ทั่วไป นั่นก็คือ


>> ดูตารางแล้วเข้าใจไหมเอ่ย?? ถ้ายังไม่เข้าใจเรามาดู โครงสร้างประโยคเพื่อเพิ่มความเข้าใจกันดีกว่า..............

 ตำแหน่งในการวาง Adverbs of Frequency

1.            หากประโยคมี verb to be เราจะต้องใส่ adverb of frequency ไปหลัง verb นั้นๆ เช่น
-                   Anna is always late. / Anna isn’t usually late.
2.            หากประโยคมีการใช้ Main Verb จะต้องใส่ Adverbs of Frequency ไปหน้า Verb นั้นๆ เช่น
-                   Anna always watches a television.

>> ถ้าเข้าใจหลักการใช้กันดีแล้วเรามาลองสร้างประโยคกันเลย โดยการดูตารางข้างล่างนี้แต่งประโยคให้สมบูรณ์...


 >>ลองทำกันดูนะคะทุกคน สู้ๆค่ะ<<

There was/There were



วันนี้เราจะทำความเข้าใจเพิ่มเติมในเรื่องของ >> 
"There was/ there were"
มีความหมายว่า "เคยมี" ใช้เมื่อต้องการจะบอกว่า "มีอะไรอยู่ที่ไหนในอดีต" เช่น 

Singular
Plural
There was...
There were...
                         
         ถ้าหากต้องทำให้เป็นประโยคปฏิเสธ เราจะเพิ่ม
   "not" ที่ "was" หรือ "were"
Singular
Plural
There was not...
There were not...
There wasn't...
There weren't...

  ถ้าต้องการทำประโยคให้เป็นประโยคคำถามต้องใส่
  "was" หรือ "were" ก่อน "there"
Singular
Plural
Was there... ?
Were there... ?
                                                                       
                                                                  ตัวอย่าง
write
There was a lightning storm last night.
(ในประประโยค there ใช้กับคำนามที่นับได้ เป็นนามเอกพจน์ = พายุ)

lightning
There were many things to do and see at the amusement park.
(ในประโยคนี้ there ใช้กับคำนาม นับได้ พหูพจน์)
There was also a lot of food there.
(ในประโยคนี้ there ใช้กับคำนามนับไม่ได้ อาหาร)
child eating
There were a lot of students on this website last night.
Were there a lot of students on this website last week?

kadir
daisy
mary
abdullahi
Ottery
Ruby
There wasn't any furniture in the apartment.
It was almost empty.
empty room
There weren't any people in the hotel room.
It was empty.
hotel roo
Was there a lot of food at the party?
Yes, there was.
food on a plate
Were there a lot of people at the meeting?
No, there weren't.
How many peoplewere there?
There were only four people.
meeting

>>อย่าลืมทบทวนความรู้กันบ่อยๆนะคะทุกๆคน<<




10 เทคนิคจำศัพท์


จำศัพท์อย่างไรให้แม่น
เคล็ดลับ 10 ข้อในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ

รู้สึกเหนื่อยใจกับการท่องศัพท์แบบเดิมๆ ใช่มั้ยคะ วันนี้เรามีวิธีเด็ด ช่วยจำมาฝากค่ะ ช่วยมำให้การท่องศัพท์ เป็นเรื่องง่าย และน่าสนุกขึ้นทันที

1. ความเกี่ยวเนื่อง ถ้าน้องๆ จัดคำศัพท์ออกเป็นหมวดหมู่ ขึ้นอยู่กับความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันระหว่างคำศัพท์ แล้วเขียนออกมาเป็นแผนผัง จะทำให้น้องๆ จำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น




2. เขียน การนำคำศัพท์นั้นๆ มาใช้ จะทำให้น้องๆ จำได้ฝังใจยิ่งขึ้น ลองแต่งประโยค โดยนำคำศัพท์ใหม่ที่เรียนมาใช้ดูสิคะ แต่งเป็นเรื่องราวๆ ง่ายในชีวิตประจำวัน หรือเขียนเป็นไดอารี่ภาษาอังกฤษเลยได้ยิ่งดีค่ะ




3. วาดรูป ดึงวิญญาณศิลปินในตัวออกมาใช้ โดยการวาดรูปที่แสดงถึงคำศัพท์ที่เราเรียนอยู่ ภาพที่วาดจะช่วยกระตุ้นความทรงจำถึงศัพท์นั้นในอนาคต 


4. แสดง ท่าทางประกอบคำศัพท์ หรือสำนวนที่กำลังเรียนอยู่ หรือจินตนาการว่าจะแสดงออกอย่างไร ในสถานการณ์ที่ต้องใช้ศัพท์คำนั้น


5. สร้าง ลองออกแบบสมุดศัพท์ภาษาอังกฤษ พร้อมความหมาย แล้วเปิดอ่าน หรือท่องในยามว่าง ทำเล่มใหม่ทุกอาทิตย์ น้องๆ จะได้คลังคำศัพท์ในหัวเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ



6. ความสัมพันธ์ กำหนดแต่ละสี ให้แต่ละคำศัพท์ ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ จะช่วยให้จำศัพท์นั้นได้แม่นยำขึ้น เมื่อนึกถึงคำนั้นในคราวต่อไป
                 



7. ฟัง นึกถึงศัพท์คำอื่นที่ออกเสียงคล้ายๆ กับศัพท์ใหม่ที่กำลังเรียนอยู่ ใช้ความสัมพันธ์ตรงจุดนี้ในการช่วยให้น้องๆ จำการออกเสียงของคำใหม่นั้นได้ง่ายขึ้น 
                


8. เลือก จำไว้ว่า การเรียนในหัวข้อที่น้องๆ ชอบ จะทำให้รู้สึกว่ามันง่ายขึ้น ดังนั้นควรใส่ใจในการเลือกคำศัพท์ที่คิดว่ามีประโยชน์ หรือน่าสนใจ เพราะแม้แต่การเลือกคำที่จะเรียน ก็มีผลให้จำได้แม่นและเร็วขึ้นเช่นกัน

                                             
    


9. ข้อจำกัด มันเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะจำศัพท์ในดิกชันนารี่ได้หมดในวันเดียว ดังนั้นจำกัดการเรียนศัพท์ใหม่แค่วันละ 10-15 คำ ก็พอแล้ว อย่าพยายามยัดเยียดให้สมองตัวเองเยอะเกิน เพราะจะทำให้สมองตื้อ และเบื่อหน่ายแทนค่ะ

               
10. สังเกต พยายามสังเกตคำศัพท์แปลกใหม่จากสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะจากเพลง หรือนสพ. ภาษาอังกฤษ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า น้องๆ ต้องรู้จักฟังเพลงและอ่านนสพ. ภาษาอังกฤษบ้างนั่นเอง นอกจากจะได้เจอศัพท์ใหม่ แล้ว ยังเพิ่มทักษะการฟัง และการอ่านไปในตัวด้วยค่ะ


**อย่าลืมเก็บเทคนิคกับไปทำกันนะคะ จะทำให้เรามีคลังคำศัพท์เพิ่มขึ้นมาอีกเยอะเลย***